หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

เกี่ยวกับ PHP

PHP คืออะไร

หลายคนที่ทำเว็บไซต์ด้วย HTML หรือโปรแกรมช่วยสร้างเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Dreamweaver แล้วอาจสงสัยว่าเมื่อทำ form สำหรับ รับค่าเช่น ชื่อ ที่อยู่ เสร็จแล้วจะเก็บค่ายังไง หรือจะทำอย่างไรต่อ หรือเว็บบอร์ดทำงานอย่างไร CMS ทำงานอย่างไร ทำไมบางเว็บไซต์สามารถโต้ตอบกับ ผู้ใช้งานได้ คำตอบของทุกคำถามคือ PHP 

PHP นั้นเป็นภาษาสำหรับใช้ในการเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ สามารถเขียนได้หลากหลายโปรแกรมเช่นเดียวกับภาษาทั่วไป อาจมีข้อสงสัยว่า ต่างจาก HTML อย่างไร คำตอบคือ HTML นั้นเป็นภาษาที่ใช้ในการจัดรูปแบบของเว็บไซต์ จัดตำแหน่งรูป จัดรูปแบบตัวอักษร หรือใส่สีสันให้กับ เว็บไซต์ของเรา แต่ PHP นั้นเป็นส่วนที่ใช้ในการคำนวน ประมวลผล เก็บค่า และทำตามคำสั่งต่างๆ อย่างเช่น รับค่าจากแบบ form ที่เราทำ รับค่าจากช่องคำตอบของเว็บบอร์ดและเก็บไว้เพื่อนำมาแสดงผลต่อไป แม้แต่กระทั่งใช้ในการเขียน CMS ยอดนิยมเช่น Drupal , Joomla พูดง่ายๆคือเว็บไซต์จะโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ต้องมีภาษา PHP ส่วน HTML หรือ Javascript ใช้เป็นเพียงแค่ตัวควบคุมการแสดงผลเท่านั้น

นอกจากภาษา PHP แล้วยังมีภาษาอื่นอีกหรือไม่
คำตอบคือมี เช่น ASP , JSP แต่ที่นิยมมาก คือ PHP เพราะเป็นภาษาที่สามารถศึกษาได้ง่าย ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน รวมทั้งมีชุมชนคนใช้งาน และคู่มือที่ ดีมาก และสำคัญสุดคือฟรีครับ การใช้งานภาษา PHP ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

การจะเขียน PHP ต้องมีอะไรบ้าง
อย่างที่บอกไปว่า PHP นั้นจำเป็นจะต้องมีการประมวลผลดังนั้นการใช้งานเราจะต้องมี Web Server เพื่อให้ตัว PHP สามารถทำงานได้ ต่างจาก HTML งั้นจะทำอย่างไรถ้าเราไม่ได้เช่า Web Server เอาไว้จะใช้งาน PHP ไม่ได้หรือ คำตอบคือได้แต่เราจะต้องลงโปรแกรม ให้เครื่องที่เราใช้งานอยู่นั้นทำงานเหมือนกับ Web Server ซะก่อนซึ่งโปรแกรมนั้นชื่อว่า Apache ครับเป็นโปรแกรมฟรีเหมือนกัน นี่เป็นข้อดี ที่ทำให้ทุกคนรัก PHP ครับ หลังจากที่เราทำให้เครื่องของเรานั้นเหมือนกับ Web Server แล้วจะเก็บข้อมูลเว็บไซต์เช่น คำตอบของเว็บบอร์ด จะเก็บอย่างไร คำตอบคือต้องมีโปรแกรมฐานข้อมูลอีกตัวเข้ามาช่วยครับ ซึ่งโปรแกรมที่แนะนำคือ MySQL ครับฟรีอีกเช่นกัน ทั้งหมดสำหรับมือใหม่อาจ จะเริ่มลงโปรแกรมทั้งหมดนั้นยากนะครับ จึงมีโปรแกรมที่รวมทุกอย่าง เพื่อจำลองเครื่องของเราให้เป็น Web Server เลยสามารถลงได้ง่ายๆ 

การพัฒนาเว็บไซต์ด้วย PHP
สำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์ด้วย PHP นั้นปรกติจะทำการจำลองเครื่องของตัวเองให้เป็น Web Server ระหว่างการพัฒนาเพื่อดูการทำงาน ของโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาครับ จากนั้นจึงจะอัพไฟล์ทั้งหมดลงใน Web Server จริงครับ ในส่วนของ Web Server นั้นทาง Hellomyweb ก็มีให้บริการอยู่ ถามว่าเราจะให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นทำงานได้เหมือนกับ Web server จริงได้หรือไม่ คำตอบคือได้ แต่มันออกจะไม่คุ่มค่า ทางการเงินนะครับ เพราะเราต้องเสียค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต เครื่องคอมก็ต้องเปิดไว้ตลอดปิดไม่ได้ เวลาผู้ใช้งานจากภายนอกมาเรียกใช้ก็รองรับไม่ได้ไม่มาก ดังนั้นการเช่า Web Server ภายนอกจะคุ่มค่ามากกว่า หากต้องการจะพัฒนาเว็บไซต์เพื่อใช้งานจริงๆ

ที่มา http://www.hellomyweb.com/index.php/main/content/135

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

ip address

ip address คือ

   
    ip address คือ เลขรหัสประจำคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่บนเครือข่าย ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุดและมีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุด ยกตัวอย่างเช่น 192.168.1.1 เป็นต้นหรือนิยมเรียกสั้นๆว่า IP ซึ่งตัวเลข IP แต่ละเครื่องจะไม่ซ้ำกัน ดังนั้น จึงได้มีการก่อตั้งองค์กรเพื่อ แจกจ่าย IP Address โดยเฉพาะ ชื่อองค์กรว่า InterNIC (International Network Information Center) อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายนั้นทาง InterNIC จะแจกจ่ายเฉพาะ Network Address ให้แต่ละเครือข่าย ส่วนลูกข่ายของเครือง ทางเครือข่ายนั้นก็จะเป็น ผู้แจกจ่ายอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นพอสรุปได้ว่า IP Address จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ส่วน คือ
  1. Network Address
  2. Computer Address
การแบ่งขนาดของ Network Address แบ่งได้ หลายขนาด Class A หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 0.0.0.0 ถึง 127.255.255.255 มีไว้สำหรับจัดสรรให้กับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อภายในเครือ ข่ายจำนวนมากๆ Class B หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 128.0.0.0 ถึง 191.255.255.255 มีไว้สำหรับจัดสรรให้กับองค์กรขนาดกลาง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้มากถึง 65,534 เครื่อง Class C หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 192.0.0.0 ถึง 223.255.255.255 มีไว้สำหรับจัดสรรให้กับองค์กรขนาดเล็กและใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในเครือ ข่ายอินเตอร์เน็ตสามารถต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ 254 เครื่อง Class D หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 224.0.0.0 ถึง 239.255.255.255 สำหรับหมายเลข IP Address ของ Class นี้มีไว้เพื่อใช้ในเครือข่ายแบบ Multicast เท่านั้น Class E หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 240.0.0.0 ถึง 254.255.255.255 สำหรับหมายเลข IP Address ของ Class นี้จะเก็บสำรองไว้ใช้ในอนาคต ปัจจุบันจึงยังไม่ได้มีการนำมาใช้งาน
ที่มา http://www.howto108.com/ip-address-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD.html

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

code html

Hypertext Markup Language

โครงสร้าง

<html>
<head>
<title>.........</title>
</head>

<body>
</body>
</html>

แต่ไม่ต้องไปสนใจ

มาสนใจโค้ดดีก่า

html ก็เหมือน ภาษาอังกฤษอ่าครับ

ก็คือ ต้องท่องคำศัพท์

และจำคำแปลไห้ได้ เท่านั้นเองครับ

------------------------------------------------------------

เกี้ยวกับรูปแบบ

<br> : เว้นบรรทัด

&nbsp; : เว้นวรรค

<div align="left">ข้อความ</div> : ข้อความชิดซ้าย

<div align="right">ข้อความ</div> : ข้อความชิดขวา

<div align="center">ข้อความ</div> : ข้อความอยู่กลาง

<center>ข้อความ</center> : ข้อความอยู่กลาง

------------------------------------------------------------

เกี้ยวกับสีสันข้อความ

<b>ข้อความ</b> : ตัวหนา

<strong>ข้อความ</strong> : ตัวหนา

<i>ข้อความ</i> : ตัวเอียง

<em>ข้อความ</em> : ตัวเอียง

<u>ข้อความ</u> ขีดเส้นใต้

<font size="10">ข้อความ</font> : ขนาดข้อความ

<font color="#000000">ข้อความ</font> : สีข้อความ

<font color="#000000" size="10">ข้อความ</font> : ขนาดและสีข้อความ

------------------------------------------------------------

เกี่ยวกับรูปภาพ

<img src="url"> : ใส่รูป

<img src="url" width="100px" height="100px"> : ใส่รูป แบบ กำหนดขนาด

<img src="url" border="3" border-color="#000000"> : ใส่รูป แบบ กำหนกขนาดและสีเส้นขอบ

<img src="url" ait="ข้อความ"> : ใส่รูป แบบ เวลาเอาเมาไปชี้แล้วมีข้อความขึ้นมา

------------------------------------------------------------

เกี่ยวกับ Link

<a href="url">ข้อความ</a> : ลิ้งโดยใช้ข้อความ

<a href="url"  target="_blank">ข้อความ</a> : ลิ้งโดยใช้ข้อความ แบบเปิดหน้าต่างไหม่

<a href="url"><img src="url รูป"></a> : ลิ้งโดยใช้รูปภาพ
 
<a href="url"  target="_blank"><img src="url รูป"></a> : ลิ้งโดยใช้รูปภาพ แบบเปิดหน้าต่างไหม่

------------------------------------------------------------

เกี้ยวกับ marquee หรือข้อความเลื่อน (ถูกทางฮิห้าบล๊อก)

<marquee>ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อนจากขวาไปซ้าย

<marquee direction="left">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อนจากขวาไปซ้าย

<marquee direction="right">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อนจากซ้ายไปขวา

<marquee direction="up">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อนจากล่างขึ้นบน

<marquee direction="down">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อนจากบนลงล่าง

<marquee width="100px" height="100px">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อน แบบ กำหนดความกว้าง

<marquee bgcolor="#00CC99">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อน แบบ กำหนดสีพื้นหลัง

<marquee scrollamount="1">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อน แบบ กำหนดความเร็ว

<marquee behavior="alternate">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อน แบบ ไปกลับ

<marquee behavior="slide">ข้อความ</marquee> : ข้อความเลื่อน แบบ ไปรอบเดียว 

------------------------------------------------------------

เกี้ยวกับ marquee หรือรูปเลื่อน (ถูกทางฮิห้าบล๊อก)

<marquee><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อนจากขวาไปซ้าย

<marquee direction="left"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อนจากขวาไปซ้าย

<marquee direction="right"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อนจากซ้ายไปขวา

<marquee direction="up"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อนจากล่างขึ้นบน

<marquee direction="down"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อนจากบนลงล่าง

<marquee width="100px" height="100px"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อน แบบ กำหนดความกว้าง

<marquee bgcolor="#00CC99"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อน แบบ กำหนดสีพื้นหลัง

<marquee scrollamount="1"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อน แบบ กำหนดความเร็ว

<marquee behavior="alternate"><img src="urlรูป"></marquee> : รูปเลื่อน แบบ ไปกลับ

<marquee behavior="slide"> <img src="urlรูป"> </marquee> : รูปเลื่อน แบบ ไปรอบเดียว 

------------------------------------------------------------

เกี่ยวกับตาราง

<table background="urlรูป"><tr><td>ข้อความ</td></tr></table> ใส่พื้นหลังไห้ข้อความ

------------------------------------------------------------

การดัดแปลง

เช่นผมคิดจะทำ topfriend เลื่อนได้ (ถูกทางฮิห้าบล๊อก)

<center>
        <table border="2" bordercolor="#สีขอบ" height="150" width="400" background="ภาพพื้นหลัง">
                <tr>
                        <td>
                                <marquee direction="left">
                                        <a href="ลิ้ง"><img border="0" src="รูป" alt="ชื่อ" height="100" width="100"></a>
                                        <a href="ลิ้ง"><img border="0" src="รูป" alt="ชื่อ" height="100" width="100"></a>
                                        <a href="ลิ้ง"><img border="0" src="รูป" alt="ชื่อ" height="100" width="100"></a>
                                        <a href="ลิ้ง"><img border="0" src="รูป" alt="ชื่อ" height="100" width="100"></a>
                                        <a href="ลิ้ง"><img border="0" src="รูป" alt="ชื่อ" height="100" width="100"></a>
                                </marquee>
                        </td>
                </tr>
        </table>
</center>

หรืออักษร welcome สวยๆ

<center>
     <b>
          <FONT COLOR="#FF0000" size="5">W</FONT>
          <FONT COLOR="#FF9900" size="5">e</FONT>
          <FONT COLOR="#FFFF00" size="5">l</FONT>
          <FONT COLOR="#99FF00" size="5">c</FONT>
          <FONT COLOR="#00FF00" size="5">o</FONT>
          <FONT COLOR="#00FF99" size="5">m</FONT>
          <FONT COLOR="#00FFFF" size="5">e</FONT>
          <FONT COLOR="#0099FF" size="5">T</FONT>
          <FONT COLOR="#0000FF" size="5">o</FONT>
          <FONT COLOR="#9900FF" size="5">H</FONT>
          <FONT COLOR="#FF00FF" size="5">i</FONT>
          <FONT COLOR="#FF0099" size="5">5</FONT>
     </b>
</center>

ขอแค่ว่าเปิดแล้วต้องปิด เท่านั้นครับ

แถมตารางสี





โค้ดพวกนี้ สามารถ นำไปคอมเม้นไห้เพื่อน เพื่อเพิ่มความสวยงาม โดยการใส่ไปในกล่องรับข้อความ เช่น

code color html

http://html-color-codes.info/

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์

1. Objective 

Objective ใน การสร้างเว็บไซต์ จำแนกให้คร่าวๆดังนี้

  • Company/Organize website ทำเว็บไซต์เพื่อเป็นหน้าบ้าน เป็นหน้าตาขององค์กร, บริษัท, โรงงาน หรือหน่วยงานใดๆก็ตาม เพื่อเป็นช่วงทางในการติดต่อจากผู้ที่สนใจ และอาจจะมีระบบบางอย่าง ซึ่งใช้งานเฉพาะในหน่วยงานนั้นๆ
  • Shopping/Service website เป็นการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อเป็นอีกช่องทางในการขายสินค้า หรือเสนอบริการต่างๆ ซึ่งโดยมากมักจะเป็นธุรกิจที่ดำเนินมาแล้ว และต้องการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงสินค้า และบริการเหล่านั้น
  • Make money website เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อหารายได้โดยเฉพาะ มันจะเป็นเว็บที่มี banner โฆษณาต่างๆให้เห็นเยอะๆ ข้อมูลเนื้อหาสาระมีมากมาย เป็นเว็บ variety ก็มี หรือจะเป็นเว็บข้อมูลเฉพาะทางก็ไม่น้อย
  • Community website เป็นเว็บที่ทำตัวเป็นเหมือนแหล่งให้ผู้ที่ชื่อชอบอะไรที่คล้ายๆกัน มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยมากจะเป็นเว็บบอร์ด เช่นบอร์ดรถ บอร์ดสัตว์เลี้ยง ตัวอย่างก็เว็บอย่าง pantip เป็นต้น และนอกจากนี้ยังรวมถึงเว็บ Social ต่างๆด้วย เช่น facebook, twitter อะไรแบบนั้น แต่สุดท้าย เว็บแนวนี้ก็ไม่พ้นเป็น money website อยู่ดี
  • Other website นอกจากที่กล่าวมาแล้ว มันยังมีเว็บไซต์อีกหลายรูปแบบที่เค้ามีเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจเปิดเผย
2. Sitemap & Layout เราต้องวางโครงสร้างเว็บก่อนครับ มันก็เหมือนสารบัญของหนังสือนั่นแหละ จะต้องมีหน้าไหนบ้าง และแต่ละหน้าจะวาง Layout มันยังไง เช่น มี header มี footer มี sidebar มั้ย เป็นต้นครับ


3. Website Design คือการออกแบบเว็บไซต์นั่นแหละ จะให้ดีต้องเริ่มจากการกำหนดแนวโน้มของ concept เว็บไซต์ก่อนว่าจะไปทางไหน อาจมีการทำ color scheme เป็นการเลือกว่าเว็บไซต์ต้องมีสีอะไรบ้าง หรืออาจะมีการทำ Image map เอารูปภาพมาแปะๆดูเนี่ยแหละ ว่าแนวทาง หน้าตาจะออกมาแบบไหน Vintage, Modern, เรียบๆ หรือ อวกาศ อะไรแบบนั้น ถ้ายังคิดไม่ออกก็ต้องลองเปิดเว็บไซต์ชาวบ้านหาแรงบันดาลใจ และแนวทางดูครับ สุดท้ายในการออกแบบเว็บไซต์เนี่ย มันก็อยู่ที่ Products, Service หรือ Company ของคุณนั้นแหละครับ ว่าคืออะไร มี Concept อย่างไร

4. Coding คือการเขียนโปรแกรมเว็บไซต์ครับ โดยภาษา ณ ปัจจุบัน ที่นิยมมากที่สุด และสามารถสร้างให้เกิดเว็บไซต์ได้ เราต้องรู้จักคือ ภาษา HTML ครับ เป็นภาษาที่จะบอกให้เว็บไซต์แสดงผลออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่นตำแหน่งตัวอักษร ภาพ ขนาดตัวอักษร หรือ สี เป็นต้นครับ แต่ในความเป็นจริง เราไม่ได้ใช้ HTML อย่างเดียวในการออกแบบเว็บไซต์ครับเดี๋ยวจะขออธิบายเพิ่มเติมอีกที

5. Content เมื่อทั้งระบบและการออกแบบผสานกันจะเสร็จแล้ว มันก็จะออกมาเป็นเว็บไซต์โล่งๆครับ เหมือนห้องสมุดที่ไม่มีหนังสือ ทำอย่างไร เราก็ทำการเอา Content ใส่เข้าไปในเว็บไซต์ครับ โดยส่วนมากก็จะใช้งานกับผ่านระบบ CMS ครับ

6. Promote ครับ เมื่อเว็บเราสวย Content น่าสนใจ แต่ไม่เป็นที่รู้จัก ก็เหมือนห้างสุดหรูอยู่กลางป่าเขา ไม่มีใครเห็น สิ่งที่เราต้องทำคือย้ายมันมาอยู่แหล่งเศรษฐกิจนั่นเองครับ ก็คือการโปรโมทมันเข้าไปครับ บอกต่อเพื่อน แชร์ผ่าน Social Network แลก Banner โพสตามเว็บบอร์ด ต่างๆนาๆ เพื่อให้เว็บเราเป็นที่รู้จักครับ ไม่อย่างงั้นเว็บดีสวย แต่ไม่มีคนเข้า จะทำทำไมเนอะ


ที่มา http://arkadej.com/post/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C/


วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Domain Name

Domain Name คืออะไร


Domain Name (โดเมน) คือ ชื่อเว็บไซต์ (www.yourdomain.com) ที่ท่านสามารถเป็นเจ้าของ ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำกับคนอื่น เพื่อการเรียกหาเว็บไซต์ที่ต้องการ "ชื่อเว็บไซต์" คือ สิ่งแรกที่แสดง หรือ ประกาศความมีตัวตนบนอินเตอร์เน็ตให้คนทั่วไปได้รู้จัก สามารถมีได้ชื่อเดียวในโลกเท่านั้น เช่น www.gict.co.th เมื่อผู้ใช้กรอกชื่อลงไปในช่อง Address ของ Internet Explorer ก็จะส่งชื่อไปร้องถามจากเครื่องแปลชื่อ โดเมน (Domain Name Server) และได้รับกลับมาเป็นไอพีแอดเดรส (Internet Protocol) แล้วส่งคำร้องไปให้กับเครื่องปลายทางตามไอพีแอดเดรส และได้ข้อมูลกลับมาตามรูปแบบที่ร้องขอไป

Sub Domain คืออะไร


Sub Domain ( ซับโดเมน ) คือ เว็บย่อยของเว็บไซต์ของเราอีกที โดยปกติถ้ามี Domain (โดเมน) ชื่อ www.gict.co.th เราจะเข้าชมเว็บไซต์ของเราโดยพิมพ์ www.gict.co.th แต่หากเราต้องเข้าชมเว็บย่อยของเราจะต้องพิมพ์ http://domain.gict.co.th มีประโยชน์สำหรับท่านที่มีธุรกิจหลายประเภท เป็นการจำแนกแยกแยะหมวดหมู่ธุรกิจ

ข้อควรรู้ก่อนจดโดเมน


  1. ความยาวของชื่อ Domain ตั้งได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร
  2. Domain ต้องจดในชื่อของคุณเท่านั้น Domain Ownership
  3. ถ้าเป็น Domain ของบริษัท พยายามจดภายใต้ชื่อบริษัท อย่าจดด้วยชื่อพนักงาน IT
  4. ข้อมูลที่สำคัญที่สุดของ Domain คือ Owner Detail
  5. ใช้อีเมล์ที่จะอยู่กับคุณตลอดไปในการจดโดเมน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ใช้ติดต่อกับคุณ เรียกว่า Registrant E-Mail
  6. บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับ Domain ของคุณไว้ให้ดี วันหมดอายุ ผู้ติดต่อ และอื่น ๆ

อักขระที่จะใช้ในการตั้งชื่อโดเมน


  • ชื่อ Domain สามารถใช้ ตัวอักษรภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ตัวเลข และ "-" (ยัติภังค์) ได้
  • ชื่อ Domain โดยปกติ จะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร และลงท้ายด้วยตัวอักษรหรือตัวเลข
  • ชื่อ Domain มีความยาวตั้งแต่ 1 ถึง 63 ตัวอักษร
  • ชื่อ Domain ตัวอักษรตัวใหญ่ A-Z หรือตัวอักษรตัวเล็ก ถือว่าเหมือนกัน
  • ชื่อ Domain ต้องไม่ขึ้นต้นหรือลงท้ายด้วยเครื่องหมาย - และต้องไม่มี Space

หลัการตั้งชื่อโดเมน ภาษาไทย

  1. ชื่อ Domain จะต้องไม่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ พระบรมวงศานุวงศ์ และสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ และพระบรมวงศานุวงศ์
  2. ชื่อ Domain จะต้องไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือองค์กรหนึ่งองค์กรใด
  3. ชื่อ Domain จะต้องไม่เป็นชื่อต่าง ๆ ของประเทศไทย จังหวัด รวมถึงสถานที่อันเป็นสาธารณะต่าง ๆ ในประเทศ
  4. ชื่อ Domain จะต้องไม่ประกอบด้วยคำหยาบหรือคำที่ผิดต่อศีลธรรมอันดีงามของไทย
  5. ชื่อ Domain จะต้องมีความสัมพันธ์อย่างหนึ่งอย่างใดกับชื่อโดเมนภาษาอังกฤษที่อ้างอิงดังนี้
- อ่านออกเสียงได้ตรงกัน
- มีความหมายตรงกัน

การจดทะเบียนโดเมนเนม

การจดทะเบียนโดเมนเนม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
  1. การจดทะเบียนโดเมนเนมภายในประเทศ
  2. การจดทะเบียนโดเมนเนมภายในประเทศจะได้นามสกุล โดเมน เป็น .จดโดเมน .co.th, .or.th, .ac.th, in.th เช่นนามสกุล ".CO.TH" มีคนจดมากกว่าชนิดอื่นๆ เป็นเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป การจดทะเบียนชื่อโดเมน ต้องเป็นชื่อเดียวกับชื่อบริษัท หรือชื่อย่อของชื่อบริษัท ซึ่งจดทะเบียนไว้กับกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้นการจดทะเบียนจึงต้องใช้สำเนาใบทะเบียนการค้า หรือสำเนาใบรับรอง หรือสำเนาใบ ภ.พ. 20 เป็นหลักฐาน
    • โดเมน นามสกุล .OR.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ และชื่อโดเมนต้องเป็นชื่อขององกร หรือตัวย่อของชื่อองค์กรนั้นๆ ต้องใช้สำเนาเอกสารทางราชการเป็นหลักฐานการจดทะเบียน
    • โดเมน นามสกุล .AC.TH เป็นเวบไซตืของสถานศุกษาต่างๆ ชื่อของโดเมนที่จดทะเบียนต้องเป็นชื่อของสถานศึกษานั้นๆ หรือชื่อย่อของชื่อสถานศึกษา ใช้สำเนาเอกสารการขออนุญาตก่อตั้งสถานศึกษาเป็นหลักฐาน
    • โดเมน นามสกุล .IN.TH เป็นเวบไซต์ของบุคคลธรรมดาโดยทั่วไป ชื่อโดเมนจะใช้ชื่ออะไรก็ได้ ใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบขับขี่เป็นหลักฐานการจดทะเบียน
    • โดเมน นามสกุล .GO.TH เป็นเวบไซต์ของส่วนราชการของประเทศไทย โดยปกติจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่
    • โดเมน นามสกุล NET.TH เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับบริษัทที่เกียวกับระบบ Network หรือ ISP (ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต) ในประเทศไทย

    การจดทะเบียนโดเมนเนมภายในประเทศ มีกฏระเบียบมาก ต้องจดทะเบียนโดเมนเนม แบ่งประเภทตามที่เขาแบ่งไว้ จึงจดทะเบียนโดเมนเนม ได้ยากกว่าการจดทะเบียนโดเมนเนม ต่างประเทศ ปัจจุบันการจดทะเบียนโดเมนเนม ภายในประเทศ ยังถือว่ามีน้อยมาก เนื่องจากการจดทะเบียนโดเมนเนม มีข้อยุ่งยากดังที่กล่าวข้างต้น และมูลค่าของเว็บไซต์มักจะถูกมองว่ามีค่าน้อยกว่าการจดทะเบียนโดเมนเนม ที่มีนามสกุลเป็น".COM" กับศูนย์จดทะเบียนโดเมนเนม ต่างประเทศ ทั้งๆ ที่มีความสามารถเหมือนกัน

  3. การจดทะเบียนโดเมนเนมต่างประเทศ

  4. การจดทะเบียนโดเมนเนมต่างประเทศจะได้นามสกุล โดเมน เป็น .COM .NET .ORG

    • โดเมน นามสกุล .COM ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป รวมทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว และมีบางครั้งนำไปใช้ทำเว็บไซต์ (web site) ประเภทอื่นๆ ด้วย
    • โดเมน นามสกุล .NET ใช้ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์ค (network) ของคอมพิวเตอร์ หรือเว็บไซต์บริการอินเตอร์เน็ต แต่บางครั้งก็นำไปใช้ด้านอื่นด้วย
    • โดเมน นามสกุล .ORG ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ บางครั้งก็มีการจดทะเบียนนำไปใช้กับเว็บไซต์ประเภทอื่นด้วย

    • ปัจจุบันได้เกิด โดเมน ชนิดอื่นขึ้นอีกมากมาย เนื่องจากว่ามีการพยายามแบ่งประเภทเว็บไซต์ออกไป และขณะเดียวกันชื่อ โดเมน ก็เหลือน้อยลง ดังมีรายละเอียดดังนี้

    • โดเมน นามสกุล .cc เป็น โดเมน ที่คาดว่าน่าจะมีความนิยมทัดเทียมกับ .com ในเวลาอันใกล้นี้เนื่องจาก .com แทบจะไม่มีชื่อดีๆ เหลืออยู่แล้ว การนำไปใช้งานสามารถนำไปใช้กับเว็บไซต์ธุรกิจโดยทั่วไปได้
    • โดเมน นามสกุล .biz สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจโดยทั่วไป เป็น โดเมน น้องใหม่ พึงเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มธุรกิจที่เป็น ธุรกิจจริงๆ ซึ่งก็ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักค่อนข้างเร็ว
    • โดเมน นามสกุล .info ใช้สำหรับเว็บไซต์ที่ให้รายละเอียดเกียวกับข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลของประเทศต่างๆ เป็นต้น
    • โดเมน นามสกุล .ws เป็นชนิดของชื่อเว็บไซต์หนึ่งที่พยามยามสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับ .cc การนำไปใช้งานสามารถนำไปใช้ได้กับทุประเภทเว็บไซต์
    • โดเมน นามสกุล .tv เป็นเว็บไซต์ของสื่อโฆษณาต่างๆ โดยเฉพาะสื่อทางด้านภาพและเสียง ปัจจุบันค่อนข้างได้รับความนิยมจากเว็บไซต์ประเภทสื่อพอสมควร

    แม้ว่าปัจจุบันจะมีโดเมนถูกนำเสนอออกมาหลายประเภท หลายชนิดก็ตาม แต่ .com .net และ .org ก็ยังถือว่าเป็นโดเมนมาตราฐานสากล ที่ได้รับความนิยมและยอมรับกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก

อ้างอิง : http://domain-name.gict.co.th/